เมื่อพูดถึงเรื่องหนี้สินแล้ว เรียกว่าเป็นเรื่องชวนกลุ้มใจและทำให้หลายคนเป็นโรคเครียดและซึมเศร้าได้ เราจึงได้ขอนำเสนอ 5 step เคลียร์หนี้สินแบบเร่งด่วน เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนสามารถเคลียร์หนี้ได้อย่างไวที่สุด
STEP 1 คำนวณว่าสุทธิแล้ว ณ ปัจจุบันเราเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ โดยคิดรวมทั้งหนี้ในระบบผ่านธนาคาร สหกรณ์ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ และหนี้นอกระบบ ที่มีทั้งดอกเบี้ยสูงถึงต่ำ รวมถึงหนี้คนที่รู้จัก (เช่น เพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อยที่ให้หยิบยืม) เพื่อตระหนักถึงสถานการณ์ว่าอยู่ในขั้นร้ายแรงหรือวิกฤติเพียงใด
STEP 2 ลำดับว่าหนี้แต่ละก้อนจากข้อแรก มีดอกเบี้ยสูงต่ำอย่างไรกันบ้าง ควรลำดับความสำคัญจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดไว้บนสุดของตารางหนี้สินของเรา โดยอย่าลืมคำนวณว่าดอกเบี้ยนั้นต้องเป็นหน่วยเดียวกัน คือ ดอกเบี้ยต่อเดือน จึงจะเปรียบเทียบกันได้ ดังนั้นหากสถาบันการเงินที่เป็นแหล่งเงินกู้ยืมระบุดอกเบี้ยเป็นแบบรายปี ก็นำมาหารด้วยเลข 12 ก็จะได้เป็นดอกเบี้ยต่อเดือน เช่น ดอกเบี้ย 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ก็เท่ากับ 0.83 (มาจาก 10 หารด้วย 12) เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน หากกู้ยืมมา 1 แสนบาทก็เท่ากับมีดอกเบี้ย 830 บาทในแต่ละเดือนโดยเฉลี่ย
STEP 3 ในสองข้อแรกเป็นฝ่ายของหนี้สินแล้วทีนี้ฝ่ายของสินทรัพย์หรือสมบัติที่มีอยู่ที่สามารถตีมูลค่าเป็นเงินบาท สำหรับนำไปขายเป็นสินค้ามือสองเพื่อใช้หนี้คืนโดยไว โดยทั่วไปจะเป็นบ้าน รถ ที่ดิน คอนโดมิเนียม สร้อยแหวนกำไล นาฬิกา-กระเป๋าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม เป็นต้น นำมาบันทึกลงในตารางลักษณะเดียวกันกับฝ่ายหนี้สิน
STEP 4 นำข้อมูลด้านหนี้และด้านสินทรัพย์ที่มี ไปขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่ไว้ใจได้ เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่มีประสบการณ์ทำงานการธนาคารในด้านสินเชื่อ เพื่อสอบถามแนวคิดในการหาแหล่งรับซื้อสินค้าขายทอดตลาด (รวมถึงการจำนำ จำนอง ที่จะได้มีสิทธิ์ไถ่คืนออกมาในอนาคต) รวมถึงกรณีที่มีหนี้สินนอกระบบ ก็ควรปรึกษาด้านการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพื่อกู้เงินก้อนใหม่มาจ่ายคืนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงให้หมดก่อน
STEP 5 เมื่อทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจนได้เงินมาใช้หนี้แล้ว ต้องมีวินัยในการจัดการด้านการเงิน ไม่ให้กลับมามีสถานะเป็นลูกหนี้ จากการสร้างหนี้ก้อนใหม่อีก โดยเฉพาะหนี้สินจากการลงทุนในสิ่งที่ไม่ถนัดหรือในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ หนี้จากการซื้อสิ่งของตามเทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ เป็นต้น
แม้ไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานะลูกหนี้ แต่ในหลายครั้งก็เกิดการเป็นหนี้สินจากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เพลิดเพลินจนเกินตัว โดยเฉพาะหากไม่มีการจัดทำตารางค่าใช้จ่ายรายวันแล้ว ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหนี้ง่าย ๆ จึงควรรักษาวินัยพื้นฐานด้านความประหยัดให้ดี เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นหนี้ซ้ำอีก