เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ว่าการก่อหนี้สินในครัวเรือนมักจะนำไปสู่ปัญหาขัดแย้งของคู่สมรส โยนความผิดให้กันและกัน “เรื่องของคุณ” “เรื่องของฉัน” ไม่ว่าจะเป็นหนี้ที่ใครก่อขึ้นก็ตาม ความจริงสองคนจะต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา จัดการกับหนี้สินเพื่อรักษาความสัมพันธ์และชีวิตคู่เอาไว้ แนะนำ 5 ขั้นตอนในการปลดล็อกหนี้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนในการปลดล็อกหนี้
1.คุยเรื่องหนี้อย่างจริงจัง
คุณและคู่สมรสต้องยอมรับหนี้สิน ถึงเวลาที่จะต้องพูดคุยเรื่องนี้ ขั้นตอนแรกคือแจกแจงรายละเอียดว่าใคร เป็นหนี้ เท่าไร ดูอัตราดอกเบี้ยของหนี้สินแต่ละรายการ แม้ว่าบุคคลหนึ่งคนใดจะเป็นก่อหนี้ให้รักษาคำสัญญาก่อนแต่งงานไว้ว่าจะ “ร่วมทุกข์ร่วมสุข” ชำระหนี้ทั้งหมดด้วยกัน ทั้งคู่ควรยอมรับความจริงที่ว่าครอบครัวเรามีหนี้สิน ช่วยกันคิดแผนการจ่ายเงินทั้งหมดที่ค้างชำระ มองหาทางเลือกว่าจะทำอย่างไรกันดี คุยกันว่าจะรีไฟแนนซ์หนี้อย่างไรให้จัดการเงินง่ายและสบายที่สุด
2.จัดลำดับความสำคัญของหนี้
พิจารณาหนี้ทั้งหมดและเลือกว่าต้องจ่ายสิ่งของจำเป็นก่อนเสมอ เช่น ค่าอาหาร เสื้อผ้าและค่าผ่อนบ้านหรือค่าเช่า หมายถึงค่าใช้จ่ายจำเป็นจริง ๆ ไม่รับประทานมื้อเย็นหรูนอกบ้าน ซื้อเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น บ้านขนาดพอตัว หนี้หรือเงินกู้ต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน เช่น รถยนต์หรือที่อยู่อาศัย จำเป็นต้องจ่ายหนี้เหล่านี้ให้ตรงเวลาถ้าไม่อยากสูญเสียทรัพย์สินทั้งรถยนต์และบ้านที่อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในชีวิตได้
3.วางแผนการจ่ายหนี้
เลือกวิธีดีที่สุดสำหรับการชำระหนี้ โดยจ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เลือกจ่ายเงินขั้นต่ำของหนี้แต่ละประเภทเพื่อให้สามารถจ่ายได้ต่อเนื่องจนกว่าจะชำระเงินหมด เมื่อปลดหนี้ดอกเบี้ยสูงสุดได้แล้ว ให้ทยอยโปะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงรองลงมาให้หมดไปทีละรายการ อีกทางเลือกหนึ่งคือการชำระหนี้จำนวนน้อยที่สุดก่อน แต่ละเดือนเลือกชำระหนี้ทุกประเภทตามขั้นต่ำที่สุด เหลือเท่าไรไปโปะหนี้ก้อนเล็กให้หมด แล้วทยอยปลดหนี้ที่เหลือ ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนต้องมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด รัดเข็มขัดแล้วไปต่อให้ถึงเป้าหมาย
4.เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย
หากคุณหรือคู่สมรสคุ้นเคยกับการใช้จ่ายสิ่งฟุ่มเฟือยที่ไม่อยู่ในแผนงบประมาณ เช่น เที่ยววันหยุดพักผ่อน รับประทานอาหารนอกบ้านหรืออื่น ๆ นิสัยการใช้จ่ายเกินตัว ต้องกำจัดพฤติกรรมเหล่านี้ไปอย่างถาวร ถ้าคุณชำระหนี้เพียงเพื่อให้กลับมารูดบัตรเครดิตได้อีก หรือซื้อรถยนต์ใหม่ในไม่กี่สัปดาห์หรือหลายเดือนต่อมา ทางที่ดีนำเงินไปลงทุนหรือซื้อพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำดีกว่า ถึงเวลาแล้วที่จะระงับพฤติกรรมการใช้จ่ายแบบไม่ยั้งคิด
5.เจรจาต่อรองหากจำเป็น
แม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระหนี้ด้วยตัวคุณเองแต่ไม่สำเร็จ สามารถเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อลดหนี้บางส่วนได้ อธิบายให้เห็นสถานการณ์ความยากลำบากที่มาชั่วคราว เช่น ถูกให้ออกจากงานแต่จะมีงานใหม่เข้ามา เพื่อให้ลดภาระหนี้หรือปรับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายน้อยลง เมื่อหมดหนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายในอนาคตร่วมกับคู่สมรสเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่จำเป็นในอนาคต