เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ร้อยทั้งร้อยต้องพบเจอกับปัญหาหนี้สินที่มีเข้ามาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือเป็นหนี้บัตรเครดิต อยู่ที่ว่าทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของแต่ละคนเป็นอย่างไร ถ้าใครยังไม่รู้เทคนิคปลดหนี้ที่เห็นผล วันนี้จะมาแจกกฎการปลดหนี้ที่ทำได้ง่าย แถมปลดหนี้ไวอย่างเห็นผลให้ได้รู้กัน
- แยกประเภทหนี้ออกเป็น 2 แบบ คือหนี้ดีกับหนี้ไม่ดี เพื่อจะได้สามารถจัดการลำดับการชำระหนี้ให้ถูกต้อง ดังนี้
- หนี้ดี คือ ภาระหนี้สินที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคต เช่น ภาระหนี้สินจากเงินกู้ธนาคารเพื่อผ่อนบ้าน หรือหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า
- หนี้ไม่ดี คือ หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในภายหลัง เช่น หนี้จากการซื้อของฟุ่มเฟือยโดยการรูดบัตรเครดิตแล้วชำระเพียงขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ หรือกู้เงินล่วงหน้าจากบัตรกดเงินสด
เมื่อสามารถแยกแยะประเภทหนี้สินได้แล้ว ก็จะทำให้สามารถวางแผนและจัดลำดับการชำระหนี้ได้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น หนี้เงินกู้ซื้อบ้านที่ต้องมีกำหนดเวลาในการชำระหนี้ต่อธนาคารเพื่อไม่ให้มีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก ควรจัดอยู่ในลำดับแรกของการใช้หนี้ เป็นต้น
- หยุดการสร้างหนี้เพิ่มเติม คือสิ่งสำคัญที่ต้องจัดการตัวเองให้ได้ ในเมื่อหนี้เก่ายังชดใช้ไม่หมด ก็ไม่ควรสร้างหนี้เพิ่มเพื่อให้กลายเป็นภาระหนี้สินรุงรังที่ไม่รู้จบ โดยเทคนิคของการหยุดสร้างหนี้ทำได้โดย
- ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก เช่น การช้อปปิ้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือการกินเลี้ยงสังสรรค์หลังเลิกงาน
- งดการใช้บัตรเครดิต แม้ว่าจะเป็นตัวช่วยให้การใช้จ่ายง่ายดายขึ้น แต่ต้องอย่าลืมว่าการใช้บัตรเครดิตถึงไม่ได้จ่ายเงินออกจากกระเป๋าโดยตรงในเวลานั้น แต่เมื่อถึงเวลาใช้หนี้บัตร ก็ต้องนำเงินสดที่เก็บไว้มาชำระหนี้อยู่ดี
- ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ เพราะการกู้นอกระบบเป็นสิ่งผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือการทวงหนี้ที่ใช้วิธีการข่มขู่ต่าง ๆ เมื่อเกิดปัญหาการผิดชำระหนี้ตามมา ลูกหนี้ก็ไม่สามารถใช้ข้อกำหนดตามกฎหมายช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้
- หยุดพฤติกรรมการโปะหนี้ ประเภทที่ยืมเงินจากคนหนึ่งเพื่อไปใช้หนี้ให้อีกคนหนึ่ง หรือกดเงินสดจากบัตรเครดิตใบหนึ่งเพื่อไปจ่ายอีกใบหมุนวนกัน เพราะเป็นพฤติกรรมการสร้างหนี้เพิ่มหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ
- วางแผนการใช้เงินและการชำระหนี้อย่างเป็นระบบและปฏิบัติให้เป็นนิสัย ข้อนี้สำคัญมากเพื่อให้หมดภาระหนี้สินโดยไว จำเป็นต้องวางแผนดังนี้
- วางแผนด้านรายรับรายจ่าย วิธีการง่าย ๆ คือการให้แบ่งส่วนจากรายได้ประจำเดือน เช่น 10% ต้องเก็บออมไว้เพื่อให้มีเงินออมไว้สม่ำเสมอโดยกองนี้ห้ามนำไปใช้อย่างอื่น, ต่อมา 70% ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ และอีก 20% สำหรับใช้เป็นเงินชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ (ค่าร้อยละสามารถปรับได้ตามสถานการณ์ของแต่ละคน)
- ตั้งเป้าหมายทางการเงิน โดยอาจใช้วิธีการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนในอนาคต เช่น การลงทุนในกองทุนต่าง ๆ จะทำให้สามารถมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นในอนาคต รวมถึงสามารถนำไปใช้ปลดหนี้ส่วนที่ยังขาดอยู่ได้
- รู้จักวิธีช่วยลดหนี้ เช่น การขอรีไฟแนนซ์จากธนาคาร เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ได้ดี
เป็นเรื่องปกติของทุกคนที่จะเป็นหนี้ได้ เพียงแต่ต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเป็นหนี้ก็ต้องหาวิธีในการชำระหนี้อย่างถูกต้อง รวมถึงไม่ควรมีพฤติกรรมในการสร้างหนี้เพิ่ม เพื่ออนาคตหากปลดหนี้ได้หมด จะได้นำเงินที่เหลือไปสร้างผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองได้ในระยะยาว