ปัจจุบันมีคนเป็นหนี้จำนวนมากขึ้นทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ ที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่แพงกว่าปกติ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน สำหรับชำระบัตรเครดิต ผ่อนส่งบ้านและรถ ทำให้มีภาวะเงินขาดมือและอาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องเป็นคดีเพื่อให้ชำระหนี้สินในอนาคตได้
เราจึงได้รวมเทคนิคการจัดการหนี้สินให้หมดไวมาฝาก ดังนี้
1. ไม่สร้างหนี้ใหม่
การหยุดสร้างหนี้ใหม่โดยการเลิกใช้บัตรเครดิต ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างเคร่งครัด ใช้จ่ายซื้ออาหารและของจำเป็นด้วยเงินสด จะช่วยลดปริมาณหนี้ในอนาคตได้
2. ทำรายการหนี้สินที่มีอยู่
ลำดับหนี้สินตามดอกเบี้ยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และให้ความสำคัญกับเจ้าหนี้ที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดก่อน เพื่อเจรจาจ่ายหนี้ให้ไว จะได้ทำให้มีเงินเหลือสำหรับการจ่ายหนี้เจ้าอื่น ๆ ที่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าให้หมดได้อย่างรวดเร็ว
3. เจรจาลดหนี้
เรามีเทคนิค hair-cut ที่สามารถต่อรองกับเจ้าหนี้ เพื่อขอจ่ายหนี้สินที่เหลือเป็นเงินก้อนทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ขอลดหนี้เหลือเพียง 50% เช่น คุณมีหนี้ 3 แสนบาท แล้วค้างจ่ายมานาน ควรติดต่อเจ้าหนี้ขอประนอมหนี้ว่าจะยอมจ่ายแบบ hair-cut 150,000 บาท งวดเดียว โดยนำเงินมาจากการขายที่ดินหรือหยิบยืมญาติพี่น้อง ซึ่งเจ้าหนี้ส่วนใหญ่จะไม่อยากให้หนี้สูญหรือเป็น NPL ก็จะทำการตกลงในข้อเสนอนี้
4. ติดต่อธนาคารเพื่อช่วยลดหนี้นอกระบบ
ปัจจุบันธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรหรือ ธกส. มีนโยบายปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ที่มีหนี้นอกระบบ เพียงมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท ก็สามารถมากู้เพื่อไปชำระเจ้าหนี้นอกระบบได้ โดยทางธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลูกหนี้ เพียง 0.85 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เท่านั้น
5. นำของที่มีค่าไปจำนำหรือจำนอง
หากมีสิ่งของที่มีมูลค่า เช่น โฉนดที่ดิน สร้อยทอง โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ไม่มีความจำเป็น ควรนำไปเป็นตัวช่วยเพิ่มเงินสดในกระเป๋า ด้วยการจำนำจำนองกับสถาบันการเงินที่ไว้ใจได้ เพื่อนำเงินที่ได้ไปจ่ายหนี้ให้มากที่สุด และยังพอมีเงินช่วยเสริมสภาพคล่องในครัวเรือนได้มากขึ้น
กรณีที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากเจ้าหนี้ โดยเฉพาะการกู้เงินนอกระบบ ที่อาจมีการข่มขู่หรือคิดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่เป็นธรรม สามารถขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม สังกัดกระทรวงมหาดไทย เบอร์โทรสายด่วน 1567 หรือศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้กระทรวงยุติธรรมก็ได้
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นทางออกให้แก่ทุกท่านที่มีปัญหาภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ อย่างไรก็ตาม ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้จ่ายและมีวินัยในการเก็บออม เพื่อที่จะไม่ทำให้กลับมามีหนี้สินให้เป็นทุกข์อีกต่อไป