การเป็นหนี้ นับว่าเป็นความทุกข์ใจของทุกคน โดยเฉพาะหากมีทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบที่มีเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกันเกินกว่าที่คุณจะสามารถจ่ายได้ เรามาดูกันว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรที่คุณต้องทำ เพื่อให้สามารถปลดหนี้สินได้โดยเร็ว
1. คำนวณรายได้รายจ่ายปัจจุบัน
การจะวางแผนจ่ายหนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงว่าคุณมีรายจ่ายจริง ๆ แต่ละเดือนเท่าไร มีรายได้กี่ทาง รวมเป็นกี่บาท และส่วนของหนี้ที่ต้องชำระกี่เจ้าหนี้ นำมาเขียนลงใน EXCEL หรือสมุดบันทึก เพื่อให้ตัวเลขชัดเจน
2. ลำดับรายจ่ายและดอกเบี้ยจากสูงไปต่ำ
คุณต้องตั้งเป้าในใจว่าจะใช้จ่ายประหยัดไม่เกินกว่าตัวเลขใน ข้อ 1. และส่วนของการเป็นหนี้ให้ลำดับว่าจะต้องคืนหนี้ให้รายใดก่อน โดยเอาเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยแพงที่สุดไว้ลำดับแรก รองลงมาจนถึงรายที่อาจให้คุณยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย เช่น ญาติหรือเพื่อนสนิท แล้วเตรียมเอกสาร เช่น หลักฐานรายได้แต่ละเดือน และรายจ่ายที่คุณต้องรับผิดชอบเพื่อการเจรจาต่อรองในข้อถัดไป
3. ติดต่อเจ้าหนี้
คุณควรนำเอกสารไปยื่นและพูดคุยเป็นกิจจะลักษณะและมีเอกสารบันทึกชัดเจนว่า คุณขอทยอยใช้คืนหนี้สิน แต่ขอให้ยืดระยะเวลาออกไป หรือลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายแต่ละงวด หรือขอให้คิดดอกเบี้ยในอัตราลดพิเศษ เพื่อให้คุณสามารถมีเงินออมไปลงทุน เพื่อนำกำไรมาจ่ายได้มากขึ้น สำหรับคนที่ให้ยืมเงินแบบไม่คิดดอกเบี้ย คุณก็ควรทยอยคืนเงินให้คนที่มีน้ำใจเหล่านั้นด้วย อย่าทำเพิกเฉยเด็ดขาด เพราะคุณอาจสูญเสียทั้งความเชื่อมั่นและเสียญาติหรือเพื่อนไปตลอดกาล
4. หารายได้เสริม
นอกจากการขอประนอมหนี้ด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว การสร้างรายได้เพิ่มด้วยการทำ OT นอกเวลา การหาอาชีพเสริม ไม่ว่าจะเป็นการขับรถบริการ Grab taxi หรือ รับส่งอาหาร กรณีที่คุณมีรถของตัวเอง หรือการทำงานจากบ้านระบบออนไลน์ เช่น การรับจ้างเขียนบทความให้เว็บไซต์ ก็เป็นช่องทางสร้างเงินเก็บมาใช้หนี้ให้หมดไปเร็วขึ้นได้
5. หยุดใช้บัตรเครดิต
หลายคนมีหนี้สินจากการใช้ บัตรเครดิต เพราะรูดใช้เงินเพลินจนเกินกว่ารายได้ที่มีจะมาชำระได้หมด หากคุณไม่แน่ใจว่าจะอดทนไม่ใช้บัตรได้ ก็ควรแจ้งทางบริษัทว่าขอยุติการใช้บัตร จนกว่าจะแก้ไขปัญหาหนี้สินได้หมดเสียก่อน การใช้จ่ายเฉพาะเงินสดที่คุณมีจริง จะป้องกันการสร้างหนี้ใหม่ได้อย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่า การจะปลดปัญหาหนี้สิน ต้องทำเป็นลำดับขั้นตอนและอาศัยความตั้งใจจริงที่จะทำให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้ทุกท่านสามารถหยุดปัญหาหนี้สินได้สำเร็จ